ฟันสบลึก คืออะไร แก้ยังไง จัดฟันยังไงดี

ฟันสบลึก (Deep Overbite) คือความผิดปกติของการสบฟันที่เมื่อสบฟันแล้ว ฟันหน้าบนคร่อมฟันหน้าล่างมากกว่าปกติ เกิดจากการที่ระยะในแนวดิ่งของใบหน้าส่วนล่างมีขนาดสั้นกว่าปกติ เนื่องจากกระดูกขากรรไกรเจริญห่างออกจากกันน้อยกว่าปกติ คนไข้กลุ่มนี้เวลากัดฟันจะไม่ค่อยเห็นฟันหน้าล่างหรือบางทีก็ไม่เห็นเลย บางคนที่เป็นมากๆ ฟันล่างจะกัดโดนเพดานปาก ทำให้รู้สึกเจ็บเวลาเคี้ยวอาหาร ปลายฟันหน้าล่างมีโอกาสชนหรือเสียดสีกับโคนฟันหน้าบน ทำให้ฟันสึก ฟันโยก เหงือกร่น ได้ง่ายกว่าปกติ อาการฟันสบลึกมักพบร่วมกับอาการฟันงุ้ม

ขนาดความยาวของฟันแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน แต่โดยทั่วไปแล้วจะถือว่ามีการสบฟันลึกเมื่อการสบฟันแล้วฟันหน้าบนมาคร่อมตัวฟันหน้าล่างมากกว่า 30-40% ของความยาวตัวฟันล่าง

สาเหตุของฟันสบลึกอาจเกิดจากพันธุกรรม การดูดนิ้วหรือใช้จุกนมนานเกินไปในวัยเด็ก หรือการสูญเสียฟันกรามก่อนวัยอันควร ผู้ที่มีภาวะนี้มักมีใบหน้าส่วนล่างสั้น ริมฝีปากล่างถูกดันไปข้างหลังเล็กน้อย และอาจมีลักษณะคางที่ถอยหลังเข้าไป

ภาวะฟันสบลึกอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดขากรรไกร ฟันสึก ปัญหาการออกเสียง และโครงหน้าไม่สวยงาม การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรง อายุ และพัฒนาการของผู้ป่วย ซึ่งอาจรวมถึงการจัดฟัน การผ่าตัดขากรรไกร และการใส่ฟันปลอม

การป้องกันภาวะฟันสบลึกทำได้โดยแก้ไขนิสัยที่ไม่เหมาะสมตั้งแต่วัยเด็ก เช่น การดูดนิ้ว รวมถึงพาไปจัดฟันเด็กและพบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อติดตามพัฒนาการของฟัน หากพบความผิดปกติ ควรรีบรักษาแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในอนาคต และเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด

อธิบายว่าเมื่อไหร่จึงเรียกว่าฟันสบลึกหรือ overbite

สาเหตุที่ทำให้ฟันสบลึก

สาเหตุของการเกิดฟันสบลึกมีหลายประการ ได้แก่

  • พันธุกรรม: ฟันสบลึกอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ที่สืบทอดมาจากพ่อแม่ เช่น ขนาดของขากรรไกรที่ผิดปกติ ทำให้ฟันไม่สามารถสบกันได้อย่างเหมาะสม
  • นิสัยการดูดนิ้ว: เด็กที่มีนิสัยชอบดูดนิ้วหรือดูดจุกนมหลอกนานเกินไป อาจทำให้ฟันหน้าถูกดันให้ยื่นออกมา ส่งผลให้ฟันสบลึกได้
  • การสูญเสียฟันแท้ก่อนวัยอันควร: หากฟันน้ำนมหลุดก่อนกำหนด ทำให้ฟันแท้ที่กำลังขึ้นเคลื่อนตัวไปในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดการสบฟันที่ผิดปกติ
  • อุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บ: การได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าหรือขากรรไกร เช่น จากอุบัติเหตุ อาจส่งผลให้กระดูกขากรรไกรและฟันเกิดการเคลื่อนตัว ทำให้สบฟันผิดรูป
  • ขากรรไกรล่างมีขนาดเล็กกว่าขากรรไกรบนจนส่งผลทำให้การเจริญเติบโตของฟันผิดปกติ

ผลกระทบของฟันสบลึก

ฟันสบลึกสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยในหลายด้าน ทั้งการบดเคี้ยว การพูด รวมถึงความสวยงามและความมั่นใจ หากไม่ได้รับการจัดการและรักษาที่เหมาะสม อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพฟันที่รุนแรงและยากต่อการแก้ไขในภายหลังได้

  • ปัญหาการสึกของฟัน: การสบฟันที่ลึกเกินไปอาจทำให้เกิดการสึกของฟันบนและฟันล่างอย่างรวดเร็ว ทั้งบริเวณด้านหน้าและด้านบดเคี้ยว ส่งผลให้เคลือบฟันบางลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อฟันผุและเสียวฟัน
  • ปัญหาเหงือกและปริทันต์อักเสบ: ฟันที่สบลึกอาจกดทับและระคายเคืองต่อเหงือก ทำให้เกิดการอักเสบของเหงือกและอวัยวะปริทันต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟันหน้าล่างจะไปโดนโคนฟันหน้าบน ทำให้เหงือกร่น เหงือกอักเสบ รากฟันอักเสบ ฟันสึกได้
  • ปัญหาการบดเคี้ยวและการกลืน: การสบฟันที่ผิดปกติสามารถส่งผลต่อประสิทธิภาพการบดเคี้ยวและการกลืนอาหารได้
  • ปัญหาการพูดและการออกเสียง: การที่ฟันหน้าไม่สบกันตามปกติจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของลิ้นและริมฝีปาก ทำให้เกิดปัญหาการออกเสียงคำบางคำ
  • ปัญหาความสวยงามและภาพลักษณ์: ใบหน้าและรอยยิ้มที่ดูสั้นผิดรูป ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความมั่นใจในการเข้าสังคม โดยเฉพาะเมื่อต้องพบปะผู้คนหรือพูดต่อหน้าสาธารณชน
  • ปัญหาความเจ็บปวดบริเวณขากรรไกร: ความผิดปกติของการสบฟันเป็นระยะเวลานานอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดบริเวณขากรรไกรและกล้ามเนื้อบดเคี้ยวได้ เนื่องจากการทำงานที่หนักเกินไป

การรักษาฟันสบลึก

ทันตแพทย์จัดฟันจะเป็นผู้ประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมเป็นรายบุคคล

  • การจัดฟันแบบติดแน่น (Traditional Braces): เป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้ลวดและแบรคเก็ตในการเคลื่อนฟันและปรับการสบฟันให้ถูกต้อง
  • การจัดฟันใส (Clear Aligners): เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามระหว่างการรักษา โดยใช้เครื่องมือจัดฟันใสค่อยๆปรับฟันให้เข้าที่ไปในแต่ละชุด จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ตามต้องการ นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์เสริมอย่างที่หนุนฟัน (Bite Ramps) ซึ่งติดที่ด้านหลังฟันหน้าบน ช่วยป้องกันไม่ให้ฟันหน้าล่างขึ้นมากระทบโดนบริเวณโคนฟันหน้าบน ทำให้การสบฟันกลับสู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้น
  • การรักษาทางทันตกรรมบูรณะ (Restorative Dentistry): สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาฟันสึกหรือชำรุดร่วมด้วย อาจต้องใช้วิธีบูรณะฟันเพื่อปรับระดับการสบให้เหมาะสม เช่น ครอบฟัน วีเนียร์ หรือการทำสะพานฟัน
  • การผ่าตัดขากรรไกร (Jaw Surgery): ในคนไข้ที่มีความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกขากรรไกรร่วมด้วย อาจจำเป็นต้องผ่าตัดปรับแต่งควบคู่ไปกับการจัดฟันเพื่อแก้ไขปัญหาการสบฟันที่รุนแรง

 

การป้องกันฟันสบลึก

การป้องกันฟันสบลึก เป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาการสบฟันผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพช่องปากและคุณภาพชีวิตในระยะยาว โดยอาศัยความร่วมมือจากทั้งคนไข้ พ่อแม่ผู้ปกครอง(ในกรณีคนไข้เป็นเด็ก) และทันตแพทย์ ในการสร้างเสริมทันตสุขภาพที่ดีและสังเกตความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น

  • ฝึกอุปนิสัยการดูแลช่องปากที่ถูกต้อง: เริ่มตั้งแต่การแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ และทำความสะอาดซอกฟันด้วยไหมขัดฟัน เพื่อป้องกันฟันผุและโรคเหงือกอักเสบที่อาจนำไปสู่การสูญเสียฟันก่อนวัยอันควร
  • เลิกนิสัยที่เป็นอันตรายต่อฟัน: ทั้งการดูดนิ้ว ดูดจุกนมหลอก หรือกัดเล็บ ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ฟันหน้ายื่นและสบลึกได้ หากเด็กมีนิสัยเหล่านี้ ผู้ปกครองควรพยายามลดหรือเลิกอย่างค่อยเป็นค่อยไป อาจใช้การชมเชยหรือให้รางวัลเมื่อเด็กเลิกทำได้สำเร็จ
  • รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพฟัน: เน้นอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม โยเกิร์ต เต้าหู้ ซึ่งช่วยให้ฟันและกระดูกขากรรไกรแข็งแรง ขณะเดียวกันก็ควรจำกัดของหวาน เครื่องดื่มรสหวานที่เป็นสาเหตุหลักของฟันผุ
  • ตรวจสุขภาพช่องปากตั้งแต่เด็ก: พาเด็กไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันตั้งแต่อายุประมาณ 6 เดือน – 1 ปี และควรไปตรวจเป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อให้ทันตแพทย์ประเมินการเจริญเติบโตของฟันและขากรรไกร หากพบความผิดปกติก็จะได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ
  • สังเกตการขึ้นของฟันแท้: ผู้ปกครองควรสังเกตลำดับการขึ้นของฟันแท้ว่าเป็นไปตามปกติหรือไม่ โดยฟันหน้าบนและล่างควรขึ้นในเวลาใกล้เคียงกัน และฟันหลังควรขึ้นเป็นคู่ๆ ถ้าหากฟันขึ้นผิดตำแหน่งหรือมีการสูญเสียฟันน้ำนมก่อนกำหนด อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดฟันสบลึกในอนาคตได้
  • ใช้อุปกรณ์จัดฟันตั้งแต่เนิ่นๆ: ในกรณีที่เด็กมีความเสี่ยงสูงต่อการสบฟันลึก ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ใช้เครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ เช่น Palatal Expander เพื่อขยายขากรรไกรบนและปรับการสบฟันตั้งแต่ยังเป็นฟันน้ำนม ซึ่งจะช่วยแก้ไขการสบฟันได้ง่ายและรวดเร็วกว่าเมื่อโตขึ้น

ความแตกต่างระหว่างฟันสบลึกและฟันเหยิน

มีคนไข้หลายคนสับสนระหว่างฟันสบลึก (Overbite) และฟันเหยิน (Overjet) บางคนก็ใช้คำสองคำนี้แทนกัน แต่ความจริงแล้วภาวะสองอย่างนี้แตกต่างกันพอสมควร

ฟันเหยิน คือ ภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อฟันหน้าบน ยื่นออกมาห่างจากฟันหน้าล่างมากเกินไป จะสังเกตเห็นชัดเมื่อมองจากด้านข้าง

ฟันสบลึก คือ ภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อฟันหน้าบน คร่อมฟันหน้าล่างมากเกินไป สามารถเห็นได้ชัดเมื่อมองจากด้านหน้าตรง

ฟันสบลึกกับฟันเหยินแตกต่างกันอย่างไร

 

บทความนี้ตรวจสอบโดย

ทพ. อดิศร หาญวรวงศ์

Adisorn Hanworawong

ทันตแพทยศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Master in Implant Dentistry (gIDE/UCLA CA. USA.)
วท.ม. สาขาวิทยาการแพทย์ (วิศวกรรมเนื้อเยื่อ)
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ประกาศนียบัตร อบรมหลักสูตรจัดฟัน Fellowship of Indian Academy of Orthodontics
Invisalign Cert., Invisalign provider

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้เหล่านี้มีไว้เพื่อช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของคุณได้ดียิ่งขึ้น ข้อมูลที่ได้จะถูกนำไปวิเคราะห์และใช้ในการพัฒนาปรับปรุงเนื้อหา บริการ และการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับคุณ ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวจะไม่มีการเปิดเผยต่อบุคคลภายนอกและจะถูกเก็บเป็นความลับ

บันทึกการตั้งค่า