ข้อควรระวังในการจัดฟันใส

การจัดฟันใส Invisalign เป็นทางเลือกหนึ่งในการจัดฟันด้วยการใช้เครื่องมือที่เป็นพลาสติกใสมาครอบฟัน แทนที่การติดเหล็กจัดฟันโลหะแบบเดิม เครื่องมือจัดฟันใสจะมีความบางและสีที่ใสทำให้สังเกตเห็นได้ยากเวลาใส่ นอกจากนั้นยังสามารถถอดออกเพื่อรับประทานอาหารและทำความสะอาดได้สะดวกกว่า อย่างไรก็ตามการจัดฟันใสก็มีข้อควรระวังอยู่บ้างดังต่อไปนี้

ความเสี่ยงทางสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการจัดฟันใส

แม้ว่าการจัดฟันใสจะทำด้วยเครื่องมือที่ค่อนข้างทันสมัยอย่างการใช้โปรแกรม clincheck และเครื่อง iTero ในการทำอุปกรณ์จัดฟัน แต่ก็อาจจะมีผลข้างเคียงได้บ้างดังนี้

  • อาการปวดฟันหรือรู้สึกไม่สบายปาก – ในช่วงเริ่มต้นของการจัดฟันใสและทุกครั้งของการเปลี่ยนชุดเครื่องมือใหม่ คนไข้จำนวนมากจะรู้สึกปวดตึงที่ฟันและไม่สบายปากเล็กน้อยเนื่องจากแรงกดของเครื่องมือเพื่อเคลื่อนฟันไปยังต่ำแหน่งที่ต้องการ อาการนี้มักเกิดขึ้นประมาณ 2-3 วันแรกแล้วจะค่อยๆ หายเป็นปกติ ถือเป็นอาการปกติของการจัดฟันใส
  • อาการระคายเคืองเหงือกหรือกระพุ้งแก้ม – เครื่องมือจัดฟันใสทำจากพลาสติกที่ขอบค่อนข้างเรียบ แต่ก็มีคนไข้จำนวนหนึ่งที่ขอบของเครื่องมือไปเบียดกับกระพุ้งแก้มหรือเนื้อเยื่อในช่องปาก คนไข้บางรายอาจมีแผลร้อนในหรือระคายเคืองเหงือกด้านในริมฝีปากหรือกระพุ้งแก้มในช่วงที่เริ่มใส่เครื่องมือใหม่ๆ อาการเหล่านี้จะบรรเทาลงเมื่อเวลาผ่านไป คนไข้สามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นได้ด้วยการใช้น้ำยาบ้วนปากหรือบ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่นๆ เพื่อลดการอักเสบ หรือใช้ขี้ผึ้งสำหรับจัดฟันทาที่ขอบเครื่องมือบริเวณที่ระคายเคืองก็ได้ ร้านจัดฟันจะมีขี้ผึ้งขาย
  • ฟันผุและโรคเหงือก – เนื่องจากคนไข้จะต้องใส่เครื่องมือจัดฟันไว้เป็นเวลาอย่างน้อย 20-22 ชั่วโมงต่อวัน จึงมีโอกาสที่แบคทีเรียจะสะสมได้ เครื่องมือจัดฟันใสอาจเป็นตัวกักเก็บเศษอาหารและคราบพลัคไว้เสียเอง ทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่ฟันจะผุหรือเหงือกอักเสบได้ คนไข้ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือมีความเป็นกรดสูงขณะใส่อุปกรณ์จัดฟันใสเพราะเครื่องดื่มพวกนี้จะซึมเข้าไปข้างในและก็ถูกเก็บอยู่ข้างในระหว่างฟันกับอุปกรณ์จัดฟันใสและติดค้างอยู่ในนั้นเป็นเวลานาน (ซึ่งจะทำให้เครื่องมือจัดฟันมีสีเปลี่ยนไปด้วย) และทำให้เคลือบฟันสึกกร่อน คนไข้จัดฟันใสจึงควรมีวินัยในการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังทานอาหารก่อนใส่เครื่องมือกลับเข้าไปเพื่อป้องกันฟันผุและโรคเหงือก
  • ฟันเคลื่อนผิดตำแหน่งหรือฟันสบกัดไม่พอดี – กรณีนี้มักจะเกิดกับการรักษาที่ไม่ได้ทำกับทันตแพทย์จัดฟันที่มีใบรับรอง ฟันอาจเคลื่อนไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้องหรือมีการสบฟันผิดแนวได้ เช่น คนไข้บางรายที่ซื้อเครื่องมือจัดฟันใสมาใช้เองจากตามอินเตอร์เนท จะมีความเสี่ยงสูงที่ฟันจะเรียงตัวผิดรูป ฟันสบตัวผิดปกติและสุดท้ายจะต้องเสียเงินกลับมารักษาใหม่ที่คลินิกทันตกรรมอยู่ดี และหากคนไข้ใส่เครื่องมือจัดฟันใสไม่ครบ 22 ชั่วโมงต่อวันก็จะทำให้ฟันเคลื่อนไม่ได้ตามแผนการรักษา หากละเลยมากๆ อาจจะต้องกลับไปใส่เครื่องมือชุดเดิม
  • รากฟันละลาย หรือรากฟันสั้นลง – ในการจัดฟันทุกแบบฟันจะต้องมีการเคลื่อน ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้รากฟันมีความยาวลดลงหรือเกิดการละลายตัวเล็กน้อยเมื่อเวลาผ่านไป เหตุการณ์แบบนี้พบได้ในคนไข้ที่จัดฟันแต่โดยทั่วไปแล้วจะเกิดเล็กน้อยและไม่ส่งผลเสียหากอยู่ในความดูแลของทันตแพทย์ ควรมีการตรวจ x-ray เพื่อดูสภาพรากฟันเพื่อระวังภาวะแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเคสที่จัดฟันมานานหลายปี
  • อาการแพ้หรือมีผลข้างเคียงอื่นๆ (พบได้ยากมาก) – คนไข้บางคนแพ้วัสดุ มีผื่นคัน ลมพิษในช่องปาก เจ็บคอระคายคอ มีรายงานเจออาการริมฝีปากบวม คอแห้ง ปากแห้ง ปวดศีรษะ แต่พบได้ยาก หากคนไข้พบว่าตัวเองมีอาการเหล่านี้ควรหยุดใส่เครื่องมือและรีบปรึกษาทันตแพทย์ทันที

ข้อจำกัดของการจัดฟันใส

แม้ว่าการจัดฟันใสจะค่อนข้างใหม่และมีข้อดีหลายอย่าง รวมถึงมีความสะดวกสบายในการใส่ แต่ก็มีข้อจำกัดหลายอย่างที่ควรทราบก่อนที่จะตัดสินใจจัดฟันด้วยวิธีนี้ เช่น

  • ไม่เหมาะกับเคสที่ซับซ้อนมากๆ – การจัดฟันใสไม่สามารถแก้ไขเคสที่ซับซ้อนมากๆ ได้ เช่น ฟันเกรุนแรง ฟันซ้อนมากๆ ฟันสบลึก/ฟันสบเปิดมากผิดปกติ ในกรณีแบบนี้การจัดฟันด้วยโลหะจะให้ผลการรักษาที่แม่นยำกว่า และควบคุมการเคลื่อนฟันได้ดีกว่า ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาฟันและขากรรไกรซับซ้อนมากควรปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันเฉพาะทางเพื่อประเมินว่าวิธีจัดฟันใสเหมาะสมหรือไม่ บางกรณีอาจต้องรักษาร่วมกับวิธีอื่นหรือทำการผ่าตัดขากรรไกรควบคู่ไปด้วย
  • ต้องถอดเครื่องมือจัดฟันทุกครั้งที่รับประทานอาหารและเครื่องดื่ม – การจัดฟันใสกำหนดให้คนไข้ถอดเครื่องมือจัดฟันทุกครั้งเมื่อทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มที่ไม่ใช่น้ำเปล่า เพื่อป้องกันความเสียหายต่อเครื่องมือและการเกิดคราบสะสมบนฟัน คนไข้จำเป็นต้องปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและหลังรับประทานอาหารต้องแปรงฟันและทำความสะอาดเครื่องมือจัดฟันก่อนใส่กลับ ซึ่งจะยุ่งยากในช่วงแรกๆ ที่ยังไม่ชิน
  • ต้องมีวินัยใส่เครื่องมือ – เพราะต้องใส่เครื่องมืออย่างน้อย 20-22 ชั่วโมงต่อวันเพื่อให้การจัดฟันเห็นผล
  • เสี่ยงทำเครื่องมือหาย – เพราะถอดเองได้จึงมีโอกาสหายสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไข้ที่ชอบเอาทิชชู่ห่อเครื่องมือจัดฟันไว้ก่อนทานอาหาร ควรเก็บไว้ในกล่องที่ดูเด่นๆ จะได้หายยากขึ้น

ความเข้าใจผิดที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับการจัดฟันใส

  • เข้าใจผิดว่าการจัดฟันใสเห็นผลเร็วกว่าจัดฟันแบบโลหะเสมอ – คนจำนวนมากเชื่อแบบนี้เพราะคิดว่าเป็นการจัดฟันแบบใหม่ แต่ความจริงแล้วก็ไม่เสมอไปเพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละเคส ซึ่งอย่าลืมว่าต้องคำนึงถึงวินัยของคนไข้ที่ต้องใส่เครื่องมือจัดฟันให้ครบตามระยะเวลาด้วย
  • เข้าใจผิดว่าการจัดฟันใสเหมาะกับทุกคน – ความจริงคือจัดฟันใสใช้ได้กับเคสฟันเก ฟันสบผิดปกติหลายรูปแบบ แต่คนที่มีปัญหาฟันหรือขากรรไกรรุนแรงมากๆ อย่างเคสที่ฟันหมุนเยอะเกิน 45 องศา ฟันสบผิดปกติมาก ก็อาจจะจำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้การจัดฟันแบบดั้งเดิมแทน การจะทราบว่าเคสของตนเหมาะกับการจัดฟันใสหรือไม่ ควรได้รับการตรวจและวินิจฉัยโดยทันตแพทย์จัดฟันก่อนเสมอ
  • เข้าใจผิดว่าเครื่องมือจัดฟันใสมองไม่เห็นเลย – ข้อดีของจัดฟันใสเด่นๆ คือมองเห็นได้ยาก ถ้าถามว่าเห็นยากกว่าจัดฟันโลหะเยอะหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าเยอะมากๆ แต่ความเป็นจริงก็ไม่ได้ล่องหน 100% ขนาดนั้น ในระยะใกล้ๆ หรือมุมแสงบางมุมคนอื่นก็อาจจะมองเห็นเงาบนผิวพลาสติกได้ โดยเฉพาะบริเวณที่ติดปุ่ม attachment บนฟันที่ใช้ในการช่วยเคลื่อนฟัน
  • การจัดฟันใสไม่เจ็บ – ความจริงคือเจ็บปวดบ้าง น้อยกว่าจัดฟันโลหะนิดหน่อย รวมถึงไม่มีเหล็กมาขูดปากด้วย แต่การเคลื่อนฟันทุกแบบย่อมทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดอยู่แล้ว การจัดฟันใสจะรู้สึกปวดๆ ตึงๆ ทุกครั้งเวลาเปลี่ยนชุดเครื่องมือ เพราะมันคือการเคลื่อนฟันไปสู่ตำแหน่งใหม่ซึ่งเป็นเรื่องปกติของกระบวนการจัดฟันนี้
  • เข้าใจผิดว่าสามารถจัดฟันใสได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องไปหาทันตแพทย์ – ในปัจจุบันมีโฆษณาการจัดฟันใสในสื่อออนไลน์เยอะ ทำให้หลายคนคิดว่าซื้อมาใส่เองได้ ทำเองที่บ้านได้ ซึ่งไม่เป็นความจริงและเป็นอันตรายมาก การเคลื่อนฟันเป็นเรื่องที่ซับซ้อน มีผลต่อสุขภาพในช่องปาก มีผลต่อการบดเคี้ยวอาหาร จึงจำเป็นต้องเข้าไปพบทันตแพทย์เพื่อให้มีการวางแผนการเคลื่อนฟัน การ X-ray ก่อนเริ่มรักษา (เพราะคนไข้อาจจะมีปัญหาอย่างอื่นอยู่ด้วยก็ได้ เช่น ฟันผุ รากฟันสั้น โรคเหงือก) นอกจากนั้นการเคลื่อนฟันที่ไม่ถูกวิธีสามารถทำให้เกิดความเสียหายถาวรต่อฟันและกระดูกขากรรไกรได้ มีรายงานว่าทันตแพทย์จัดฟันกว่า 77% เจอคนไข้ที่พยายามจัดฟันด้วยตัวเองที่บ้านแล้วมีปัญหาจนต้องมารักษาใหม่ที่คลินิก

ข้อควรระวังในการเลือกคลินิกจัดฟันใส

  • เลือกคลินิกที่มีประสบการณ์ในการจัดฟันใส สามารถดูได้จากอันดับหรือรางวัลที่ได้จากยี่ห้อ Invisalign ได้เลย (เป็นยี่ห้อจัดฟันใสที่เป็นเจ้าแรกและดังที่สุด) ยิ่งได้รับรางวัลอันดับสูงๆ ยิ่งแปลว่ามีประสบการณ์มาก เพราะรางวัลให้ตามจำนวนเคส
  • เลือกจัดฟันกับทันตแพทย์ที่เป็นจัดฟันเฉพาะทางได้ก็จะดี แม้ว่าทันตแพทย์ทั่วไปก็สามารถทำได้ แต่ถ้าเป็นเคสที่ยากทันตแพทย์ที่ผ่านการศึกษาต่อเฉพาะทางด้านการจัดฟันก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวท่านเองด้วย นอกจากนี้หากทันตแพทย์ท่านนั้นมีการอบรมหรือได้รับใบรับรองเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีจัดฟันใส (เช่น Invisalign Certified) ก็ถือเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าทันตแพทย์มีความรู้ความเข้าใจในระบบเป็นอย่างดี และสามารถใช้เครื่องมือให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
  • เลือกคลินิกที่ดูสะอาด ทันสมัย เพราะคลินิกที่มีเทคโนโลยีทันสมัยย่อมได้เปรียบในการวางแผนการรักษาที่แม่นยำกว่า เช่นการใช้เครื่องสแกนฟันระบบดิจิตอลแทนการพิมพ์ปากแบบเก่าเป็นต้น
  • เลือกคลินิกที่ให้ความสำคัญกับการอธิบาย สื่อสารตรงไปตรงมา เพราะคนไข้ควรได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับแนวทางการรักษา ระยะเวลา และค่าใช้จ่าย รวมถึงผลลัพธ์ที่คาดหวังได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ต้น รวมถึงสามารถสอบถามข้อสงสัยต่างๆ ได้ ทุกวันนี้เราสามารถตรวจสอบรีวิวหรือคำบอกเล่าจากผู้ที่เคยรักษากับคลินิกนั้นๆ ผ่านทางออนไลน์เพื่อดูความพึงพอใจของผู้ป่วยรายอื่นได้เช่นกัน หากคลินิกใดมีเสียงตอบรับที่ดี สื่อสารดูแลคนไข้ทั่วถึง ก็น่าจะสร้างความมั่นใจได้ระดับหนึ่ง
  • เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาต คลินิกทันตกรรมที่คนไข้จะไปใช้บริการต้องมีใบอนุญาตชัดเจนและถูกต้อง เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับการรักษาในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน โดยทั่วไปคลินิกที่มีมาตรฐานจะติดใบดังกล่าวไว้ให้เห็นได้ง่ายมาก

บทความนี้ตรวจสอบโดย

ทพ. อดิศร หาญวรวงศ์

Adisorn Hanworawong

ทันตแพทยศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Master in Implant Dentistry (gIDE/UCLA CA. USA.)
วท.ม. สาขาวิทยาการแพทย์ (วิศวกรรมเนื้อเยื่อ)
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ประกาศนียบัตร อบรมหลักสูตรจัดฟัน Fellowship of Indian Academy of Orthodontics
Invisalign Cert., Invisalign provider

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้เหล่านี้มีไว้เพื่อช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของคุณได้ดียิ่งขึ้น ข้อมูลที่ได้จะถูกนำไปวิเคราะห์และใช้ในการพัฒนาปรับปรุงเนื้อหา บริการ และการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับคุณ ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวจะไม่มีการเปิดเผยต่อบุคคลภายนอกและจะถูกเก็บเป็นความลับ

บันทึกการตั้งค่า