หลายๆ ครั้งคนไข้มีความจำเป็นต้องย้ายเคสจัดฟันเพื่อไปทำต่อที่คลินิกอื่น การย้ายเคสจัดฟันนั้นสามารถทำได้แต่ต้องมีการเตรียมตัวและเตรียมเอกสารที่จำเป็นให้พร้อมเพื่อให้การจัดฟันต่อที่คลินิกอื่นเป็นไปอย่างราบรื่น
สาเหตุของการย้ายเคสจัดฟัน
- ต้องย้ายที่อยู่ไปต่างจังหวัดหรือต่างพื้นที่ มีการเปลี่ยนที่ทำงาน ทำให้ไม่สะดวกในการเดินทางมาพบทันตแพทย์ที่คลินิกเดิม
- จัดฟันไม่สำเร็จ บางคนจัดฟันที่คลินิกบางแห่งเป็นเวลานานฟันก็ไม่เข้าที่เสียที
- จัดฟันแล้วฟันดูแย่กว่าเดิม คือจัดฟันแล้วแต่ได้ผลลัพธ์ไม่ตรงกับที่หวังไว้ ฟันเรียงตัวไม่สวย
- มีปัญหากับคลินิกปัจจุบัน เช่น อาจมีปัญหากับเจ้าหน้าที่หรือทันตแพทย์ ไม่ชอบหน้า ไม่ชอบกิริยาท่าทาง เป็นต้น
ย้ายเคสจัดฟันต้องใช้อะไรบ้าง
1. แจ้งสาเหตุและรายละเอียดกับคลินิกเดิม
ควรแจ้งทันตแพทย์หรือคลินิกที่จัดฟันอยู่ถึงเหตุผลในการย้าย ทั้งเพื่อให้แพทย์ทราบสาเหตุที่ผู้ป่วยต้องหยุดการรักษา รวมถึงการประเมินค่ารักษาที่อาจค้างอยู่ (ถ้ามี)
2. ขอเอกสารจากคลินิกเก่า
เอกสารสำคัญที่ต้องขอ ได้แก่
- ใบส่งตัวคนไข้เคสจัดฟัน (Referral Letter)
- แผนการรักษาเดิม (ทันตแพทย์ท่านใหม่จะได้ทราบว่าจัดฟันถึงขั้นตอนไหนแล้ว)
- ฟิล์ม X-ray 2 ฟิล์ม
- โมเดลฟัน
- รูปถ่าย
3. นำเอกสารทั้งหมดไปปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันท่านใหม่
เมื่อได้รับเอกสารครบถ้วน สามารถนำไปให้ทันตแพทย์ท่านใหม่ประเมินได้ทันที ทันตแพทย์จะพิจารณาว่าจะดำเนินการรักษาต่อได้เลยหรือไม่ หรือจำเป็นต้องรื้อเครื่องมือทั้งหมดและวางแผนการรักษาใหม่
4. ประเมินการใช้เครื่องมือจัดฟันเดิม
โดยทั่วไปแล้วทันตแพทย์จะไม่อยากให้คนไข้เสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน หากเป็นเคสที่จัดฟันมาระยะหนึ่งแล้วและอยู่ในช่วงท้ายของการรักษา มักจะสามารถใช้เครื่องมือเดิมเพื่อจัดฟันต่อได้ทันที แต่ในบางกรณีที่เพิ่งเริ่มติดเครื่องมือไม่นาน (3-4 เดือน) ซึ่งแปลว่าฟันเพิ่งเริ่มเคลื่อนที่ ยังเหลือเวลาเคลื่อนที่อีกเยอะ หรือต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนการรักษาใหม่ (เช่น ต้องถอนฟันเพิ่ม) ทันตแพทย์อาจพิจารณารื้อเครื่องมือออกแล้วเริ่มต้นติดอุปกรณ์ใหม่ เพราะ ตำแหน่งแบร็คเก็ต เครื่องมือ รวมถึงเทคนิคต่างๆ ที่ทันตแพทย์แต่ละคนใช้อาจแตกต่างกัน ดังนั้นหากเพิ่งเริ่มจัดฟัน ทันตแพทย์อาจแนะนำให้รื้อเครื่องมือจัดฟันออก แล้วติดใหม่
5. ประเมินค่าใช้จ่ายใหม่
เมื่อปรึกษาทันตแพทย์ที่จะทำการรับย้ายเคสแล้ว ก็จะต้องเริ่มทำการบันทึกแผนใหม่ เช่น ถ่าย X-ray ใหม่ ถ่ายรูปใหม่ และพิมพ์โมเดลฟันใหม่ แต่ข้อมูลเก่าที่ขอจากที่เก่ามาก็มีประโยชน์เพราะทำให้ทันตแพทย์ทราบว่าฟันของคนไข้มีการเปลี่ยนแปลงยังไงบ้าง
ค่าใช้จ่ายในการประเมินใหม่ เช่น ค่าถ่าย X-ray, ค่าพิมพ์โมเดลปากใหม่, ค่าติดเครื่องมือจัดฟัน เป็นต้น
ปัญหาที่อาจพบจากการย้ายคลินิกจัดฟัน
- อาจเสียค่าใช้จ่ายในการตรวจและวางแผนใหม่ เช่น ค่าถ่าย X-ray ใหม่ ค่าพิมพ์ปากใหม่ ค่ารื้อเครื่องมือจัดฟัน คนไข้บางคนอาจจะต้องถอนฟันเพิ่มเติม เป็นต้น
- การย้ายคลินิกทำให้ขั้นตอนล่าช้าไปบ้าง เพราะต้องประเมินเคสใหม่ หากทันตแพทย์ใหม่มีความเห็นว่าควรเปลี่ยนแผนหรือรื้อเครื่องมือ เคสจัดฟันจะใช้เวลานานขึ้นกว่าจะเสร็จ
- ทันตแพทย์แต่ละคนอาจมีเทคนิคการจัดฟันที่แตกต่างกันในเรื่องการติดแบร็คเก็ต ตำแหน่งการดัดลวด หรือรูปแบบการเคลื่อนฟัน คนไข้อาจต้องปรับตัวกับรูปแบบการรักษาหรือความรู้สึกที่ต่างออกไปจากคลินิกเดิม
หากจัดฟันที่อื่นและอยากย้ายมาที่ MOS Dental Clinic สามารถทำได้เลยนะคะ
หากจัดฟันที่ MOS Dental Clinic อยู่ สามารถย้ายสาขาได้ เปลี่ยนทันตแพทย์ได้ โดยต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ทางคลินิกกำหนดค่ะ
ค้นหาคลินิกจัดฟันใกล้ฉัน