เพดานปาก คือ บริเวณเนื้อเยื่อด้านบนในช่องปาก ทำหน้าที่สำหรับแยกช่องปากออกจากโพรงจมูก โดยเพดานปากแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ เพดานปากแข็ง (hard palate) ซึ่งอยู่ด้านหน้าของปากและมีโครงสร้างเป็นกระดูกช่วยในการบดเคี้ยวอาหาร และเพดานปากอ่อน (soft palate) ซึ่งเป็นเนื้อเยื่ออ่อนที่เคลื่อนไหวได้ มีลิ้นไก่ห้อยอยู่ปลายสุด เนื้อเยื่ออ่อนนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้อาหารหรือน้ำไหลย้อนกลับขึ้นไปยังโพรงจมูกในขณะกลืนอาหาร เพดานปากมีหน้าที่สำคัญในการพูด กลืน หายใจ ช่วยเรื่องการออกเสียง และยังมีต่อมน้ำลายเล็กๆ กระจายอยู่เพื่อช่วยหล่อลื่นช่องปากและเริ่มกระบวนการย่อยอาหารด้วย
สาเหตุของการเจ็บเพดานปาก
สาเหตุของการเจ็บที่เพดานปากที่พบได้บ่อย ได้แก่
- การรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด ทำให้เนื้อเยื่อเพดานปากอักเสบ
- การรับประทานอาหารที่แข็ง หรือมีลักษณะแหลม แล้วทิ่มเพดานปาก
- การติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือไวรัส ในช่องปาก
- เป็นแผลร้อนในในช่องปาก
- มีภาวะปากแห้ง ต่อมน้ำลายผลิตน้ำลายได้น้อยกว่าปกติ
- ใช้สารทำความสะอาดช่องปากที่มีฤทธิ์รุนแรงเกินไป ทำให้ระคายเคือง
- สูบบุหรี่จนเกิดการระคายเคือง
- เป็นเนื้องอกหรือมะเร็งในช่องปาก
อาการเจ็บเพดานปากที่เป็นอันตราย
โดยทั่วไปแล้วอาการเจ็บเพดานปากมักหายเองได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามหากมีอาการดังต่อไปนี้ แนะนำให้รีบไปพบทันตแพทย์โดยเร็วเพื่อให้ได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ
- มีอาการบวมและปวดรุนแรง
- มีตุ่มน้ำขึ้นบริเวณเพดานปาก การมีตุ่มน้ำมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์
- มีอาการเจ็บเพดานปากร่วมกับมีกลิ่นปากรุนแรง แปลว่าอาจมีการติดเชื้อร่วมด้วย
- มีอาการเจ็บเพดานปากร่วมกับมีไข้สูง เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองบวม แปลว่ามีการติดเชื้อ
- มีแผลที่ไม่ยอมหายภายใน 2 สัปดาห์ ขอบนูนแดง มีเลือดออกง่ายหรือกลับมาเป็นแผลตรงที่เดิมบ่อยๆ มักเป็นสัญญาณของมะเร็ง
หากพบว่ามีอาการเจ็บที่เพดานปาก พร้อมกับสังเกตเจอตุ่มหรือก้อนเนื้อที่ผิดปกติ ควรรีบไปพบทันตแพทย์ให้เร็วที่สุด หากละเลยหรือรอให้หายเองอาจเป็นอันตราย เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ก้อนดังกล่าวอาจเป็นเนื้อร้าย การตรวจพบและรับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้
นานเท่าไหร่ถึงจะหายเจ็บเพดานปาก
โดยทั่วไปหากเป็นการเจ็บเพดานปากที่เกิดจากสาเหตุที่ไม่อันตราย เช่น น้ำร้อนลวก โดนอาหารแข็งๆ ทิ่ม แผลร้อนใน หรือการระคายเคืองทั่วไป มักหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ ถ้าหากเกิน 1 สัปดาห์แล้วไม่หาย แนะนำให้รีบไปพบทันตแพทย์เพราะน่าจะเกิดจากสาเหตุที่มีอันตรายแล้ว
การรักษาอาการเจ็บเพดานปาก
หากเป็นอาการเจ็บเพดานปากเพียงเล็กน้อย หรือจากสาเหตุที่ไม่อันตรายก็สามารถดูแลเองได้ที่บ้านด้วยการไม่รับประทานอาหารร้อนๆ ที่กระตุ้นให้เกิดอาการ หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสาเหตุ ร่วมกับการทำความสะอาดฟันและช่องปากอย่างถูกวิธีก็สามารถหายเองได้
หากเป็นสาเหตุอื่นๆ เช่น การติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อราก็จะต้องรักษาตามอาการ ไม่ว่าจะเป็นการให้ยาต้านไวรัส Acyclovir, Valacyclovir ยาต้านเชื้อรา Nystatin, Clotrimazole เป็นต้น หรือหากเป็นอาการเจ็บเพดานปากที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แพทย์อาจพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะ เช่น Amoxicillin หรือ Clindamycin ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการติดเชื้อและชนิดของแบคทีเรียที่พบ
หากเป็นก้อนเนื้อวิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ผู้ทำการรักษาเป็นหลัก ซึ่งจะมีทั้งการรักษาด้วยการรับประทานยา และการผ่าตัด
วิธีป้องกันไม่ให้เจ็บเพดานปาก ไม่ให้เพดานปากบวม
เราสามารถป้องกันไม่ให้เจ็บเพดานปากหรือเพดานปากบวมได้ด้วยการดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บหรือระคายเคือง ดังนี้:
- ดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีด้วยการแปรงฟันที่ถูกวิธี ใช้ไหมขัดฟันและน้ำยาบ้วนปาก
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารรสจัด ร้อนจัด เย็นจัด
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- หากทราบว่าตัวเองแพ้อาหารชนิดใด ให้หลีกเลี่ยงการทานอาหารชนิดนั้น
- จัดการความเครียดให้ดี เพราะความเครียดทำให้เกิดแผลในช่องปากง่ายขึ้น
- ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้วเพื่อรักษาความชุ่มชื้นในปาก
- ไปพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือนเพื่อให้ทันตแพทย์ตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ