ไหมขัดฟันถูกออกแบบมาเพื่อเข้าถึงพื้นที่ซอกฟันและเหงือกที่แปรงสีฟันไม่สามารถเข้าถึงได้ ช่วยกำจัดเศษอาหารและคราบแบคทีเรียที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาสุขภาพช่องปากหลายอย่าง เช่น ฟันผุ โรคเหงือก และกลิ่นปาก
การใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธีจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ และส่งเสริมสุขภาพเหงือกและฟันให้แข็งแรง ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับไหมขัดฟัน ประโยชน์ วิธีการใช้ที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณสามารถใช้ไหมขัดฟันในการดูแลสุขภาพช่องปากของคุณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ไหมขัดฟัน (Dental floss) คืออะไร
ไหมขัดฟัน (Dental floss) คืออุปกรณ์สำหรับทำความสะอาดฟันที่ใช้กำจัดเศษอาหารและคราบแบคทีเรียระหว่างซอกฟันที่แปรงสีฟันเข้าถึงได้ยาก มีลักษณะเป็นเส้นบางๆ และเหนียว เพื่อให้สามารถแทรกลงไปในซอกระหว่างฟันได้โดยไม่ขาด
ในอดีตไหมขัดฟันจะทำขึ้นจากเส้นไหมจริงๆ มัดรวมกัน หรือบางทีก็ใช้เส้นด้าย ก่อนที่ปัจจุบันจะมีการพัฒนามาเป็นไนลอนและเทฟลอน ซึ่งมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกว่า คือ ลื่น ทนทาน เหนียว ไม่ขาดง่าย และไม่ดูดซับน้ำ นอกจากนั้นยังมีการแต่งกลิ่นและรสเพิ่มเติมด้วย
ทำไมต้องใช้ไหมขัดฟัน
1. ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟันได้ดีกว่าแปรงสีฟัน
เนื่องจากลักษณะเส้นขนบนแปรงสีฟันที่มักอ่อนนุ่มจึงทำให้แทงเข้าไประหว่างซอกฟันได้ยาก ในขณะที่การใช้ไหมขัดฟันเราจะแทรกไหมขัดฟันลงไปจากด้านบนทำให้ไหมขัดฟันสามารถแทรกเข้าไปอยู่ระหว่างซอกฟันและทำความสะอาดได้ดีกว่ามาก ทำให้เอาเศษอาหารออกได้อย่างหมดจดกว่า
2. ลดปัญหากลิ่นปากได้
หลายๆ ครั้งการเอาเศษอาหารตามซอกฟันออกไม่หมดทำให้เกิดกลิ่นปากได้ การใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟันเป็นประจำจะช่วยให้ซอกฟันสะอาดขึ้น การสะสมเศษอาหารน้อยลง เมื่อการสะสมของเศษอาหารน้อยลงแหล่งอาหารของเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆ ก็น้อยลง ทำให้กลิ่นปากน้อยลงด้วย
3. ป้องกันโรคที่เกี่ยวกับเหงือกและฟัน
เมื่อใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟันเป็นประจำ เศษอาหารที่สะสมอยู่ก็น้อยลง ทำให้เชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆ ที่เป็นสาเหตุของโรคที่เกี่ยวกับเหงือกและฟัน เช่น โรคฟันผุ, ฟันโยก, โรครำมะนาด หรือปริทนต์, เหงือกบวม, เหงือกร่น, เหงือกอักเสบ ลดลงด้วย
4. ลดการสะสมของหินปูน
หินปูนนั้นเกิดจากการทำปฏิกิริยาระหว่างเชื้อแบคทีเรียในปากกับเศษอาหาร โดยจะค่อยๆ ก่อตัวขึ้นเป็นคราบพลัคที่มีลักษณะเป็นฟิล์มเหนียว เมื่อคราบพลัคสะสมนานวันเข้าก็จะแข็งตัวจนกลายเป็นหินปูนในที่สุด การที่เราใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำจะช่วยกำจัดเศษอาหารออกทำให้แบคทีเรียทำปฏิกิริยาได้น้อยลง และเป็นการกำจัดคราบพลัคก่อนที่จะแข็งตัวออกไปด้วย
5. ไม่ทำให้เสียบุคลิกภาพ
เมื่อกำจัดเศษอาหารและคราบพลัคออกไปแล้วกลิ่นปากไม่พึงประสงค์ก็ไม่มี จึงทำให้เราสามารถยิ้มและพูดคุยได้อย่างมั่นใจ ว่าตัวเราไม่มีเศษอาหารติดตามซอกฟันให้เห็น และไม่มีกลิ่นปากเวลาพูดคุยกับคนอื่น
วิธีใช้ไหมขัดฟันที่ถูกต้อง
- ดึงไหมขัดฟันออกมาประมาณ 30 cm แล้วพันไว้ที่นิ้วชี้ (หรือนิ้วกลางก็ได้แล้วแต่ถนัด) ทั้งสองข้าง และให้เหลือไหมไว้ระหว่างสองมือประมาณ 2-3 นิ้วสำหรับการขัดฟัน
- ใช้นิ้วกลางหรือนิ้วชี้ ที่ไม่ได้เป็นนิ้วที่พันไหมไว้ ดันไหมผ่านซอกฟันลงไปจนสุดเหงือก ไม่ต้องออกแรงกดเหงือกมาก
- เมื่อไหมขัดฟันอยู่ในซอกฟันแล้ว ดันไหมขัดฟันไปที่ฟันด้านใดด้านหนึ่งก่อนก็ได้ (ซ้ายหรือขวาก็ได้) แล้วรูดขึ้นรูดลงเพื่อให้ฟันด้านนั้นสะอาด แล้วจึงทำแบบเดียวกันกับอีกข้าง
- ทำจนครบฟันทุกซี่
- เมื่อทำครบแล้วให้ทิ้งไหมขัดฟันนั้น ห้ามนำกลับมาใช้ซ้ำเพราะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
ไหมขัดฟันมีกี่แบบ
เราสามารถจำแนกไหมขัดฟันออกได้เป็น 4 แบบหลักๆ ดังนี้
1. ไหมขัดฟันแบบที่เราพบเห็นได้ทั่วไป ลักษณะจะเป็นเส้นสีขาวแบน มีการเคลือบ wax ไว้ เพื่อให้เส้นไหมลื่น ใช้งานได้ง่าย เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มใช้ไหมขัดฟัน
2. ไหมซาติน (Satin) เส้นไหมแบบนี้จะมีลักษณะเป็นเส้นแบนกว้างกว่าปกติ โดยผู้ผลิตคาดหวังว่าจะช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายกว่าดีกว่าเพราะพื้นที่ผิวสัมผัสเวลาใช้จะมากกว่าแบบปกติ
3. ซุปเปอร์ฟลอส (Super floss) ไหมขัดฟันชนิดนี้เหมาะสำหรับคนไข้ที่กำลังจัดฟันหรือคนที่มีสะพานฟันติดแน่น จะเป็นไหมขัดฟันชนิดพิเศษ ลักษณะจะเป็นเส้นยาวประกอบด้วยสามส่วนภายในเส้นเดียวกัน
คือ ส่วนที่ 1 จะเป็นเอ็นแข็งๆ ไว้สำหรับใช้มือจับเพื่อสอดเข้าไประหว่างอุปกรณ์จัดฟันหรือสะพานฟันติดแน่น ส่วงที่ 2 จะเป็นเหมือนฟองน้ำที่เมื่อโดนน้ำลายจะพองตัวเล็กน้อยใช้สำหรับขัดทำความสะอาด ส่วนที่ 3 จะเป็นเหมือนไหมขัดฟันตามปกติ
4. ไหมขัดฟันแบบมีด้ามจับ จะเป็นไหมขัดฟันที่ขึงอยู่บนด้ามจับพลาสติกและมีไหมขัดฟันขึงไว้ จะใช้งานได้ง่ายและสะดวกกว่าแบบอื่น แต่ประสิทธิภาพก็จะด้อยกว่าแบบอื่นเช่นกัน เพราะด้วยความที่เส้นไหมสั้นกว่าทำให้ไม่สามารถโอบล้อมรอบฟันได้เท่ากับไหมขัดฟันแบบอื่นๆ พื้นที่ในการทำความสะอาดจึงลดลงด้วย
วิธีเลือกไหมขัดฟันที่เหมาะสม
หากไม่ได้จัดฟันหรือไม่ได้มีสะพานฟันติดแน่นอยู่ ก็สามารถเลือกไหมขัดฟันได้ตามที่ชอบเลย เพราะประสิทธิภาพแทบไม่ต่างกัน หากเลือกแบบที่มีขี้ผึ้ง (wax) เคลือบไว้จะทำให้ใช้งานได้ง่ายกว่า ลงไหมในซอกฟันได้ง่ายกว่า เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มใช้ไหมขัดฟัน แต่หากเลือกไหมที่ไม่ได้เคลือบขี้ผึ้ง ก็อาจจะฝืดกว่าและทำให้กำจัดคราบหินปูนได้ดีกว่าเล็กน้อย
แต่หากจัดฟันหรือมีสะพานฟันติดแน่นอยู่ ก็ควรเลือกใช้ super floss ที่เป็นไหมขัดฟันชนิดพิเศษ เพราะจะทำให้ทำความสะอาดบริเวณที่ติดเครื่องมือจัดฟันรวมถึงสะพานฟันได้ง่ายและดีกว่า
ข้อดี-ข้อเสีย ของการใช้ไหมขัดฟัน
ข้อดีของการใช้ไหมขัดฟัน
- ช่วยกำจัดเศษอาหารและคราบแบคทีเรียบริเวณซอกฟันและเหงือกที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง ช่วยป้องกันไม่ให้มีกลิ่นปาก, การสะสมของคราบหินปูน, ฟันผุ, โรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์
- ลดความเสี่ยงของการเกิดเหงือกอักเสบ เหงือกบวม และเหงือกร่น
- ป้องกันการเกิดเลือดออกตามเหงือกได้ดีกว่าผู้ที่ไม่ใช้ไหมขัดฟัน
- ช่วยรักษาสุขภาพช่องปากในระยะยาว
ข้อเสียของการใช้ไหมขัดฟัน
- ช่วงแรกๆ ที่เริ่มใช้อาจรู้สึกเจ็บและมีเลือดออกได้ โดยเฉพาะกับคนที่เพิ่งเริ่มใช้ไหมขัดฟัน
- หากใช้ไม่ถูกวิธี เช่น กดลงตรงเหงือกแรงเกินไป จะทำให้เลือดออก เหงือกอักเสบ หรือเหงือกร่นได้
- ต้องใช้เวลาในการฝึกใช้ให้ถูกวิธี
การใช้ไหมขัดฟันทำให้ฟันห่างไหม?
การใช้ไหมขัดฟันไม่ทำให้ฟันห่าง ลองนึกภาพว่าเราต้องจัดฟันนานเป็นปีเพื่อให้ฟันเคลื่อนที่ มีเครื่องมือจัดฟันติดเพื่อส่งแรงจากลวดดัดฟันเป็นเวลานานๆ ยังทำให้ฟันเคลื่อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น การใช้ไหมขัดฟันแค่วันละไม่กี่นาทีย่อมไม่สามารถทำให้ฟันเคลื่อนที่ได้
หลายๆ ครั้งหลังใช้ไหมขัดฟันเสร็จอาจดูเหมือนฟันห่างกันเป็นเพราะเศษคราบอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟันได้ถูกกำจัดออกไป ทำให้เหมือนเกิดเป็นช่องว่างขึ้น ทั้งๆ ที่จริงๆ ช่องว่างนั้นมีอยู่ก่อนแล้ว แต่มีเศษคราบอาหารไปอุดอยู่ ทำให้นึกว่าฟันชิดกัน
ไหมขัดฟัน ใช้ตอนไหนดี ก่อนหรือหลังแปรงฟัน?
ควรใช้ไหมขัดฟันหลังการแปรงฟันเพราะจะช่วยกำจัดเศษอาหารและคราบพลัคที่เหลืออยู่จากการแปรงฟันได้ง่ายขึ้นเพราะแปรงฟันออกไปก่อนแล้ว คราบส่วนใหญ่ออกไปแล้ว การเกาะตัวของเศษอาหารหรือคราบต่างๆ ก็จะเกาะอย่างหลวมๆ ทำให้ใช้ไหมขัดฟันกำจัดออกได้ง่ายขึ้น
สรุป
การใช้ไหมขัดฟันมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการแปรงฟัน การใช้ไหมขัดฟันร่วมกับการแปรงฟันเป็นประจำทุกวันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดช่องปากได้เยอะมาก โดยช่วยกำจัดเศษอาหารและคราบแบคทีเรียที่ติดตามซอกฟันและเหงือก ซึ่งเป็นการป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปากต่างๆ เช่น ฟันผุ โรคเหงือก รวมถึงกลิ่นปาก ที่อาจตามมาหากไม่ใช้ไหมขัดฟัน
สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยใช้ไหมขัดฟัน แนะนำให้เริ่มใช้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อสุขภาพฟันและช่องปากที่ดีในระยะยาว ปรึกษาทันตแพทย์เพื่อเรียนรู้วิธีการใช้ไหมขัดฟันที่ถูกต้อง พร้อมทั้งตรวจสุขภาพฟันและขูดหินปูนให้เรียบร้อยก่อนเริ่มใช้
หากพบว่าการใช้ไหมขัดฟันส่งผลกระทบต่อเหงือกหรือฟัน เช่น มีเลือดออกมากผิดปกติหรือเลือดไหลไม่หยุด ควรรีบไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสอบและทำการรักษา
การใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี จะช่วยให้มีสุขภาพช่องปากที่ดี ลดปัญหากลิ่นปาก และลดการสะสมของคราบหินปูน ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมในระยะยาว