การจัดฟันไม่ใช่แค่เรื่องของการรักษา แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของแฟชั่นและการแสดงออกถึงตัวตนของคนไข้เอง และสิ่งเล็กๆ ที่สร้างความสนุกให้คนจัดฟันได้ทุกเดือนก็คือการเลือกสียางจัดฟัน บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจทุกมิติของการเลือกสี ตั้งแต่เทคนิคง่ายๆ ที่จะทำให้รอยยิ้มของคุณสดใสขึ้น ฟันดูขาวขึ้น ไปจนถึงการเลือกสีเสริมดวงตามความเชื่อ เพื่อให้ทุกครั้งที่เปลี่ยนยาง เป็นเรื่องสนุกและเสริมความมั่นใจให้คุณได้เต็มที่
แบบจำลองการเลือกสียางจัดฟัน


การเลือกสียางจัดฟัน
สำหรับมือใหม่ที่กำลังจะเปลี่ยนยางจัดฟันเป็นครั้งแรก หรือใครที่ยังเลือกสีไม่ถูกใจสักที ลองเริ่มจากเทคนิคพื้นฐานเหล่านี้ที่จะช่วยให้การตัดสินใจของคุณง่ายขึ้น หรือจะลองเลือกโดยใช้แบบจำลองด้านบนของเราเล่นก็ได้ว่าชอบสีไหน
วิธีเลือกสียางจัดฟันให้เข้ากับสีผิว: ขับผิวให้หน้าสว่าง
การเลือกสียางให้เข้ากับโทนสีผิวเป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลดีที่สุดในการเสริมบุคลิกภาพให้ดูโดดเด่นและเป็นธรรมชาติ
ผิวขาว/ผิวขาวเหลือง: เป็นกลุ่มที่ได้เปรียบเพราะสามารถเลือกได้เกือบทุกสี หากต้องการให้หน้าดูสดใส แนะนำให้เลือกโทนสีพาสเทล หรือสีโทนเย็น เช่น สีฟ้าอ่อน สีชมพูอ่อน หรือสีเขียวมินต์ แต่ถ้าอยากให้ฟันดูเด่นและขาวขึ้น ลองเลือกสียางโทนเข้ม เช่น สีน้ำเงินเข้ม หรือสีม่วงเข้ม ก็จะช่วยขับผิวให้สว่างขึ้นได้
ผิวสองสี/ผิวแทน: โทนสีที่ช่วยขับผิวให้ดูสดใส ได้แก่ สีโทนอุ่นและสีสดใส เช่น สีส้ม สีทอง สีแดงเข้ม (แดงเลือดหมู) หรือสีเขียวน้ำทะเล ควรระวังสีแดงสดที่อาจจะจัดจ้านเกินไป และหันมาเลือกสีแดงเข้มแทนจะช่วยให้ฟันดูขาวและเข้ากับสีผิวมากกว่า
ผิวเข้ม: แนะนำให้เลือกสียางในโทนเข้มหรือสีสดใสไปเลย เช่น สีน้ำเงินเข้ม สีม่วง สีแดงเลือดหมู หรือสีทอง จะช่วยทำให้ฟันดูขาวโดดเด่นและใบหน้าดูสว่างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
รีวิวสียางจัดฟันยอดฮิต: สีไหนใส่แล้วฟันขาว
คำถามที่พบบ่อยที่สุดคือ ใส่ยางจัดฟันสีไหนแล้วฟันขาว? คำตอบคือการเลือกใช้สีที่ “คอนทราสต์” หรือสีที่ตัดกันเข้ามาช่วย
สียอดฮิตที่ทำให้ฟันขาว: กลุ่มสีโทนเข้มเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและได้ผลดีที่สุด
- สีน้ำเงินเข้ม/สีกรมท่า: เป็นสียอดนิยมตลอดกาล เพราะความเข้มของสีจะสร้างคอนทราสต์ ทำให้ฟันดูขาวสว่างขึ้นทันที
- สีม่วงเข้ม: ให้ผลลัพธ์คล้ายกับสีน้ำเงิน แต่เพิ่มมิติความน่าค้นหาและดูมีสไตล์มากขึ้น
- สีแดงเข้ม/สีเบอร์กันดี: เป็นอีกสีที่ช่วยขับทั้งสีผิวและสีฟันให้ดูสว่าง ทำให้รอยยิ้มดูโดดเด่นและมั่นใจ
- สีเขียวน้ำทะเล/เขียวเข้ม: เป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากลองสีโทนเย็นอื่นๆ นอกจากสีฟ้า ช่วยให้ดูสดใสและไม่จำเจ
ไอเดียจับคู่สียางจัดฟันแบบทูโทน (Two-Tone) และสีสลับ
หากการเลือกสีเดียวมันน่าเบื่อเกินไป ลองเพิ่มลูกเล่นด้วยการใส่ยางสลับสีหรือแบบทูโทนดู
- คู่สีตรงข้าม: ลองจับคู่สีโทนร้อนกับโทนเย็น เช่น ฟ้า-ชมพู, ม่วง-เขียว, ส้ม-น้ำเงิน เพื่อสร้างความโดดเด่นแบบสุดๆ
- คู่สีโทนเดียวกัน: เลือกสีเดียวกันแต่คนละเฉด เช่น ฟ้าเข้ม-ฟ้าอ่อน, ชมพูเข้ม-ชมพูอ่อน เพื่อสร้างมิติที่สวยงามและดูกลมกลืน
- คู่สียอดนิยม: ม่วง-เขียว และ ฟ้า-ชมพู เป็นคู่สียอดฮิตที่หลายคนเลือกใช้ เพราะให้ความรู้สึกสดใสและลงตัว
- สีรุ้ง/สีพาสเทลสลับสี: สำหรับคนที่อยากได้ความสนุกแบบเต็มที่ การเลือกใส่ยางสีรุ้งหรือไล่เฉดสีพาสเทลก็เป็นไอเดียที่น่ารักและไม่เหมือนใคร
ข้อควรระวัง: สียางจัดฟันที่อาจทำให้ฟันดูเหลือง
มีบางสีที่ควรหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะถ้าคุณไม่มั่นใจในความขาวของฟัน
- สีขาว/สีใส: แม้จะดูสะอาดตา แต่ยางสีขาวและสีใสจะติดสีจากอาหารและเครื่องดื่ม (เช่น ชา กาแฟ แกง) ได้ง่ายมาก ทำให้ยางเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและทำให้ฟันดูเหลืองตามไปด้วย
- สีเหลือง: เป็นสีที่ควรเลี่ยงที่สุด เพราะจะยิ่งเน้นให้สีฟันตามธรรมชาติที่อาจมีโทนเหลืองอยู่แล้ว ดูเหลืองชัดเจนยิ่งขึ้น
- สีดำ: บางครั้งอาจทำให้คนมองไกลๆ แล้วดูเหมือนฟันผุหรือมีเศษอาหารติดอยู่
- สีเขียวอ่อน/สีน้ำตาล: อาจทำให้ดูคล้ายมีเศษผักหรืออาหารติดอยู่ที่ฟันได้
เจาะลึกสไตล์การเลือกสี
เมื่อเข้าใจพื้นฐานแล้ว ก็ถึงเวลาสนุกกับการเลือกสีที่บ่งบอกสไตล์ของคุณได้มากขึ้น
รวมสียางจัดฟันโทนพาสเทล: สวยหวาน น่ารักสดใส
โทนสีพาสเทลเหมาะสำหรับคนที่อยากได้ลุคที่ดูอ่อนโยน สบายตา และน่ารักสดใส
- สีฟ้าพาสเทล: ให้ความรู้สึกละมุน สบายตา และเป็นสียอดนิยมสำหรับลุคหวานๆ
- สีชมพูพาสเทล: สีสุดคลาสสิกสำหรับลุคคุณหนู ดูน่ารักและอ่อนโยน
- สีม่วงพาสเทล (ลาเวนเดอร์): เป็นสีที่กำลังมาแรง ให้ลุคที่ดูฝันๆ และไม่เหมือนใคร
- การผสมสีพาสเทล: ลองจับคู่สีชมพู-ฟ้า หรือ ม่วง-ชมพู-ฟ้า เพื่อสร้างลุคแบบยูนิคอร์นที่น่ารักยิ่งขึ้น
สียางจัดฟันโทนเข้ม: สุขุม มีสไตล์ ไม่ซ้ำใคร (สีดำ, สีกรม, สีเลือดหมู)
สำหรับคนที่ต้องการลุคที่ดูเท่ สุขุม และน่าค้นหา การเลือกใช้สีโทนเข้มเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
- สีแดงเลือดหมู (Burgundy): เป็นสีที่ให้ทั้งความรู้สึกหรูหราและเปรี้ยวเท่ในเวลาเดียวกัน และยังช่วยขับผิวได้ดีมาก
- สีกรมท่า (Navy Blue): เป็นสีเข้มที่คลาสสิก ดูดี มีความเป็นทางการแต่ก็ไม่น่าเบื่อ
- สีเขียวเข้ม (Dark Green): ให้ลุคที่ดูสุขุม มีสไตล์ และเป็นธรรมชาติ
- สีดำ: แม้จะมีข้อควรระวัง แต่สำหรับบางคน สีดำก็ให้ลุคที่เท่ มีความเป็นร็อก และโดดเด่นที่สุดได้เช่นกัน
สียางจัดฟันกับไลฟ์สไตล์และความเชื่อ
การเลือกสียางไม่ได้มีแค่เรื่องความสวยงาม แต่ยังเชื่อมโยงกับความเชื่อและกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตได้อีกด้วย
ตารางสียางจัดฟันมงคล เสริมดวงประจำวันเกิด/ราศี
สำหรับสายมู การเลือกสียางตามวันเกิดเพื่อเสริมดวงในด้านต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งความสนุกที่ทำได้ทุกเดือน
วันอาทิตย์:
- การงาน: สีชมพู
- การเงิน/โชคลาภ: สีเขียว, สีดำ, สีม่วง
- ความรัก/เสน่ห์: สีแดง, สีดำ, สีเทาเข้ม
วันจันทร์:
- การงาน: สีเขียว
- การเงิน/โชคลาภ: สีส้ม, สีทอง, สีม่วง
- ความรัก/เสน่ห์: สีฟ้า, สีน้ำเงิน
วันอังคาร:
- การงาน: สีม่วง, สีน้ำเงิน
- การเงิน/โชคลาภ: สีส้ม
- ความรัก/เสน่ห์: สีแดง, สีชมพู
วันพุธ (กลางวัน):
- การงาน: สีส้ม, สีทอง
- การเงิน/โชคลาภ: สีฟ้า, สีน้ำเงิน
- ความรัก/เสน่ห์: สีเขียว, สีขาว
วันพุธ (กลางคืน):
- การงาน: สีแดง
- การเงิน/โชคลาภ: สีขาว, สีครีม
- ความรัก/เสน่ห์: สีม่วง
วันพฤหัสบดี:
- การงาน: สีฟ้า, สีแดง
- การเงิน/โชคลาภ: สีแดง, สีส้ม
- ความรัก/เสน่ห์: สีส้ม, สีเขียว
วันศุกร์:
- การงาน: สีขาว, สีเหลือง
- การเงิน/โชคลาภ: สีชมพู
- ความรัก/เสน่ห์: สีส้ม, สีเหลือง
วันเสาร์:
- การงาน: สีดำ, สีเทา
- การเงิน/โชคลาภ: สีฟ้า, สีน้ำเงิน
- ความรัก/เสน่ห์: สีชมพู, สีน้ำเงิน
(หมายเหตุ: ตารางสีมงคลอาจมีความแตกต่างกันไปในแต่ละตำรา)
เลือกสียางจัดฟันตามเทศกาล: คริสต์มาส วาเลนไทน์ ฮาโลวีน
เพิ่มความสนุกให้เข้ากับบรรยากาศของเทศกาลต่างๆ ด้วยการเลือกสียางให้เข้าธีม
- คริสต์มาส: เขียว – แดง, เงิน – ทอง
- วาเลนไทน์: ชมพู – แดง, ขาว – ชมพู
- สงกรานต์: สีสันสดใส เช่น สีฟ้า, สีเขียวนีออน, สีส้ม, หรือสีทูโทนสดใส
- ฮาโลวีน: ส้ม – ดำ
แนะนำสียางจัดฟันสำหรับโอกาสพิเศษ: วันรับปริญญา, งานแต่งงาน
สำหรับวันสำคัญที่ต้องถ่ายรูปเยอะ การเลือกสีที่ช่วยให้ดูดีและขึ้นกล้องเป็นสิ่งสำคัญ
วันรับปริญญา/ถ่ายรูปสำคัญ: แนะนำให้เลือกสีโทนเข้ม เช่น สีน้ำเงิน หรือสีกรมท่า จะช่วยขับให้ฟันดูขาวและยิ้มสวยขึ้นกล้อง หลีกเลี่ยงสีที่อาจสะท้อนแสงแฟลชมากเกินไปหรือสีที่กลืนไปกับบรรยากาศ
งานที่เป็นทางการ: สีเงินเมทัลลิก หรือสีเทา เป็นตัวเลือกที่ดูสุภาพและคลาสสิก
เรื่องน่ารู้ทางทันตกรรมของยางจัดฟัน
นอกจากการเลือกสีแล้ว การเข้าใจเรื่องพื้นฐานเกี่ยวกับยางจัดฟันก็เป็นสิ่งสำคัญ
รู้จักประเภทของยางจัดฟัน: โอริง (O-ring) กับ เชน (Chain) ต่างกันอย่างไร?
หลายคนอาจสับสนระหว่างยางสองประเภทนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วมีหน้าที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
ยางโอริง (O-Ring): คือยางวงเล็กๆ ที่ใช้ใส่บนแบร็กเก็ตแต่ละซี่ มีหน้าที่หลักคือการยึดลวดจัดฟันให้อยู่ในร่องของแบร็กเก็ต เพื่อให้ลวดสามารถส่งแรงเคลื่อนฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โอริงมีสีสันให้เลือกมากมายและเป็นสิ่งที่เราเลือกเปลี่ยนกันทุกเดือน
ยางเชน (Chain): คือยางที่มีลักษณะเชื่อมต่อกันเป็นเส้นยาวเหมือนโซ่ ใช้สำหรับดึงฟันให้เคลื่อนที่เข้ามาชิดกัน เพื่อปิดช่องว่างระหว่างฟัน ทันตแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะเริ่มใส่เชนให้เมื่อไหร่ ซึ่งมักจะเป็นช่วงกลางถึงท้ายของการรักษา และไม่ใช่ทุกคนที่จะต้องใส่เชน
ทำไมต้องเปลี่ยนยางจัดฟันทุกเดือน
การเปลี่ยนยางจัดฟันทุกเดือน (ประมาณ 4-6 สัปดาห์) เพราะเหตุผลดังนี้
- ยางเสื่อมสภาพ: ยางจัดฟันจะสูญเสียความยืดหยุ่นเมื่ออยู่ในช่องปากไประยะเวลาหนึ่ง พอยางเรื่องเสื่อมก็ทำให้แรงจากลวดจัดฟันส่งไปไม่ค่อยถึงตัวฟัน ทำให้แรงที่ใช้ในการเคลื่อนฟันลดลง การเปลี่ยนยางใหม่จะช่วยให้แรงดึงมีความต่อเนื่องและทำให้การจัดฟันเป็นไปตามแผน
- เพื่อความสะอาด: ยางจัดฟันเป็นแหล่งสะสมของคราบแบคทีเรียและเศษอาหาร การเปลี่ยนยางทุกเดือนช่วยลดความเสี่ยงของปัญหากลิ่นปากและโรคเหงือกอักเสบได้
- เพื่อปรับแผนการรักษา: การนัดหมายทุกเดือนยังเป็นการให้ทันตแพทย์ได้ประเมินการเคลื่อนตัวของฟันและปรับเปลี่ยนแผนการรักษาให้เหมาะสมต่อไป
ดูแลสียางจัดฟันอย่างไรให้สดใส ไม่ซีดจางก่อนถึงวันนัด
อยากให้สียางสวยสดไปจนถึงวันนัดครั้งหน้า ให้ลองทำดังนี้
- หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มสีเข้ม: พยายามลดการบริโภคชา กาแฟ น้ำอัดลม แกงที่มีสีจัด เช่น แกงกะหรี่หรือแกงเหลือง เพราะสีเหล่านี้สามารถติดบนยาง ทำให้สีเพี้ยนหรือซีดจางได้
- แปรงฟันหลังทานอาหาร: การแปรงฟันหลังรับประทานอาหารจะช่วยกำจัดคราบสีที่อาจติดบนยางและเครื่องมือได้
- บ้วนปากสม่ำเสมอ: หากไม่สะดวกแปรงฟัน การบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าก็สามารถช่วยชะล้างคราบสีบางส่วนออกไปได้