การมีฟันหน้าหลอ 1 ซี่ มักเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อุบัติเหตุ ฟันผุมาก หรือโรคเหงือกจนต้องถอนฟันออกไป การมีฟันหน้าหลอนี้ส่งผลต่อความมั่นใจในการพูดและการยิ้มอย่างแน่นอน คนไข้จึงมักมีคำถามว่าควรใส่ฟันปลอมแบบไหนเพื่อให้ตนเองมีความมั่นใจมากขึ้น บทความนี้จึงเขียนขึ้นเพื่อแนะนำการใส่ฟันปลอมซึ่งมีหลายรูปแบบ โดยจะเน้นไปที่การใส่กับฟันหน้าที่หลอเพียงซี่เดียวซึ่งแต่ละแบบมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป ทั้งด้านราคา ความสะดวก และระยะยาวของการใช้งาน ดังนี้
ฟันปลอมแบบถอดได้
ฟันปลอมแบบถอดได้นั้นคนไข้สามารถถอดและใส่ได้ด้วยตัวเอง โดยฟันปลอมแบบนี้จะต้องมีจุดยึดเกาะกับฟันธรรมชาติซี่ข้างเคียงเพื่อช่วยในการยึดเกาะ ข้อดีของฟันปลอมแบบถอดได้คือสามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่ายและทั่วถึง หากในอนาคตมีการเสียฟันเพิ่มเติมก็มีค่าใช้จ่ายไม่มาก แต่ข้อเสียคือจะรู้สึกเกะกะเพราะจะมีฐานฟันปลอมในส่วนเหงือกหรือเพดานปากเข้าไปอยู่ในช่องปากด้วย ฟันปลอมถอดได้แบ่งออกเป็น 2 แบบหลักๆ คือ ฟันปลอมฐานพลาสติกและฟันปลอมฐานโลหะ ดังนี้
ฟันปลอมฐานพลาสติก (Acrylic Base)
ข้อดี
- ทำง่าย ใช้เวลาทำน้อยเพียงแค่ 4-7 วัน
- ราคาถูก
ข้อเสีย
- ต้องมีความหนาพอสมควร (ประมาณ 2 มม.) เพื่อไม่ให้แตกหักง่าย เวลาอยู่ในปากจึงรู้สึกเกะกะ ไม่สบาย
- หากทำตกพื้นหรือเคี้ยวอาหารแข็งบ่อย ๆ อาจแตกหักได้
ฟันปลอมฐานโลหะ (Metal Framework)
ข้อดี:
- แข็งแรง ทนทานกว่า
- เนื่องจากทำจากโลหะ จึงสามารถทำให้บางกว่าแบบฐานพลาสติกได้ ทำให้สวมใส่สบายมากขึ้น
ข้อเสีย
- ราคาแพงกว่าแบบฐานพลาสติก
หมายเหตุ: ฟันปลอมชนิดถอดได้ ทุกแบบไม่ควรใส่นอน เพราะจะสะสมคราบแบคทีเรีย จนอาจทำให้ฟันซี่ข้าง ๆ ผุได้
ฟันปลอมแบบติดแน่น
เป็นฟันปลอมที่ยึดกับฟันข้างเคียงหรือยึดกับรากฟันเทียมซึ่งยึดกับกระดูกขากรรไกรอย่างถาวร คนไข้ไม่สามารถถอดออกได้ด้วยตัวเอง เวลาทำความสะอาดต้องแปรงฟันให้ทั่วถึง ดูแลให้เหมือนเป็นฟันตามธรรมชาติ หากเป็นสะพานฟันจะต้องใช้ไหมขัดฟันแบบ super floss ร่วมด้วย ข้อดีคือให้ความรู้สึกที่ดีเหมือนฟันธรรมชาติ ไม่เกะกะในช่องปาก มีความแข็งแรงทนทานสูง หากดูแลดีสามารถใช้งานได้หลายปี แต่ข้อเสียคือมีราคาสูงกว่า และหากเป็นการทำสะพานฟันจะต้องมีการกรอเอาเนื้อฟันตามธรรมชาติของฟันซี่ข้างเคียงออกด้วย
สะพานฟัน (Bridge)
เป็นการอาศัยฟันข้างเคียงเป็นหลักยึด โดยการกรอเตรียมฟันซี่ข้างๆ เพื่อใช้เป็นหลักยึดให้กับฟันปลอมตรงกลางที่หายไป เช่น
- สะพานฟัน 3 ซี่: กรอฟันข้างเคียง 2 ซี่ แล้วทำสะพานฟัน 3 ซี่ ครอบลงไป
สะพานฟันแบบ Maryland Bridge
- ใช้ปีกโลหะยึดกับด้านหลังของฟันข้างเคียง
- ไม่ต้องกรอฟันมาก
- ข้อเสีย: มีโอกาสหลุดได้ จึงไม่นิยมใช้นานๆ
รากฟันเทียม (Dental Implant)
การฝังรากฟันเทียมไทเทเนียมในกระดูกขากรรไกร แล้วทำครอบฟันสวมด้านบน ถือเป็นการทดแทนฟันที่ดีที่สุดในระยะยาว ให้ความรู้สึกเหมือนฟันตามธรรมชาติที่สุด เพราะไม่ต้องพึ่งพาฟันซี่อื่น ๆ ไม่ต้องกรอฟันข้างเคียง
หลังถอนฟันแล้วใส่ฟันปลอมแบบไหนดี
หากเป็นการสูญเสียฟันที่มีการวางแผนไว้ เช่น วางแผนว่าจะถอนฟันออก ทันตแพทย์อาจวางแผนทำฟันปลอมถอดได้แบบพลาสติกให้ด้วย เพื่อให้เวลาคนไข้เข้ามาถอนฟันเสร็จแล้ว สามารถเดินออกจากคลินิกโดยมีฟันปลอมแบบถอดได้ไปด้วยเลย ไม่ต้องกลับบ้านแบบฟันหลอ หลังจากนั้นจึงรอประมาณ 1-2 เดือนเพื่อให้กระดูกและแผลหายดี จึงพิจารณาทำฟันปลอมแบบติดแน่นต่อไป
หากเป็นการวางแผนถอนฟันและใส่รากฟันเทียมพร้อมกัน ทันตแพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าคนไข้สามารถฝังรากฟันเทียมพร้อมทั้งทำครอบฟันไปด้วยเลยได้หรือไม่
สรุป: เลือกฟันปลอมแบบไหนดี?
- ฟันปลอมถอดได้ฐานพลาสติก: ราคาถูก ใช้ช่วงรอแผลถอนฟันหายหรือใส่เป็นการชั่วคราว
- ฟันปลอมถอดได้ฐานโลหะ: ทนทานและบางกว่า หากตั้งใจใช้ระยะยาวโดยไม่ทำแบบติดแน่น
- สะพานฟัน (Bridge): ถ้าฟันข้างเคียงแข็งแรง และไม่ต้องการทำรากฟันเทียม
- รากฟันเทียม (Implant): ไม่ต้องยุ่งกับฟันซี่อื่น อยู่ได้นาน ราคาสูง แต่คุ้มค่าในระยะยาวเพราะมีอายุการใช้งานยาวนานนับสิบๆ ปี